สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปนานมากกกกกก (เพิ่ม ก ไก่อีกล้านตัว)
ตอนนี้ปิดเทอมแล้วก็กลับไทยมาเรียบร้อยค่ะ แหะๆ
จากตอนที่แล้ว (ที่ดูไม่ค่อยจะมีอะไรสักเท่าไร) อย่างที่บอกไปว่า ในตอนนี้จะพูดถึงการเตรียมเอกสารและการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งการเตรียมเอกสารไอซ์ขออ้างอิงจากสิ่งที่ไอซ์ต้องทำนะคะ เพราะจากที่ลองไปดูในเว็บของAPU แล้ว ในเรื่องของเอกสารบางอย่างตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
*** ปล. ข้อมูลบางอย่างจะขออ้างอิงจากตอนที่ไอซ์สมัครนะคะ บางอย่างอาจจะไม่เหมือนกันแล้วในตอนนี้ แต่จะวงเล็บไว้ให้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว ***
เนื่องจากว่า ไอซ์สมัครรอบ FALL ฉะนั้นช่วงเวลาการส่งเอกสารก็จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงมกราคมค่ะ (ในตอนนี้เพิ่มรอบการสมัครแล้วนะคะ มีทั้งหมด 2 รอบแล้ว)
เริ่มแรกจะพูดถึงเรื่อง Requirement จากที่มหาวิทยาลัยกำหนด ซึ่งมีดังนี้
1) เรื่องการศึกษา (Educational Qualifications)
- ผู้สมัครจะต้องเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ (12 ปี) หรือว่าจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีที่สมัคร
- ภาษาญี่ปุ่น: สามารถยื่นคะแนนโดยสอบ JLPT และ EJU (Examination for Japanese University Admission for International Students)
- JLPT N1 90 คะแนนขึ้นไป
- JLPT N2 100 คะแนนขึ้นไป
- EJU 220 คะแนนขึ้นไป (ไม่รวม Writing)
- ภาษาอังกฤษ: สามารถยื่นคะแนนโดยสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC และ Eiken Test
- IELTS ได้ Total Result 5.5 ขึ้นไป
- TOEFL iBT 61 คะแนนขึ้นไป (เพิ่ม) PBT 500 คะแนนขึ้นไป
- TOEIC 700 คะแนนขึ้นไป
- Eiken Test Grade pre-1
สำหรับคนที่กังวลว่า จำเป็นจะต้องได้คะแนนสูงๆมั้ย ส่งผลอะไรต่อการสอบสัมภาษณ์หรือเปล่า ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า 'ไม่จำเป็นค่ะ' ขอให้คะแนนของคุณผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดก็พอแล้ว หรือถ้าใครอยากได้คะแนนสูงๆไว้ก่อนก็แล้วแต่ค่ะ อันนี้อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคน (ซึ่งคนที่ละซึ่งความพยายามอย่างเราแล้ว ขอแค่ผ่านก็พอค่ะ /ปาดน้ำตา)
ต่อไปจะพูดถึงเรื่องเอกสารที่ต้องส่งนะคะ ซึ่งมีดังนี้
(อ้างอิงจาก Admissions Handbook 2016)
- ใบสมัคร (Undergraduate Application Form)
- เรียงความ (Application Essay)
- แบบสอบถามเกี่ยวกับการพำนักอาศัย (Certificate of Eligibility)
- หลักฐานการจ่ายเงินค่าสมัคร (Proof of Application Fee Payment)
- ทรานสคริปต์ หรือ ผลสอบอื่นๆ (Academic Transcript)
- หลักฐานแสดงผลสอบวัดระดับภาษา (Document of Proving Japanese/English Proficiency)
- จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation)
- สำเนาพาสปอร์ต (Passport Copy)
- รูปถ่าย ขนาด 3x4 cm จำนวน 2 ใบ (Two Photographs size 3x4 cm)
- Checklist
- เรียงความขอทุน (APU Tuition Reduction Scholarship Application)
- กิจกรรมนอกเวลา/ชมรม (Extra Curricular Activities Report)
- หลักฐานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมจากข้อ 2 (Document(s) to prove Participation Extra Curricular Activities)
- ประกาศนียบัตรการได้ทุน (นอกเหนือจาก APU) (Certifications of Scholarships Received from other organizations)
*** ในตอนนี้ เอกสารบางตัวก็สามารถส่งได้ทาง Online แล้ว แต่บางตัวก็ยังต้องส่งทางไปรษณีย์นะคะ รายละเอียดก็สามารถเช็กได้จาก Admissions Handbook
**** รายละเอียดอย่างละเอียดก็สามารถอ่านได้จาก Admissions Handbook เช่นเดียวกัน
ตอนนี้ เราก็จะมาเจาะรายเอียดของเอกสารกัน :) (จะพูดถึงแค่บางตัวนะคะ)
1) ใบสมัคร จะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท
- 1: อันนี้กรอกตามที่เอกสารระบุไว้เลยค่ะ
- 2: ถ้าใครขอทุน ก็ให้ติ๊ก Yes ในช่อง Scholarship ไปนะคะ
- 3: ประวัติการศึกษา ให้กรอกตามตัวอย่างเลยค่ะ
(ตัวหนาและสีแดง 5555555) ตอนนี้เรียงความทั้งหมดที่ต้องเขียน มีทั้งหมด 4 ข้อ ข้อละ 100-150 คำ (เปลี่ยนจากตอนปี 2014 ตอนนั้นมีให้เขียนเรียงความแค่ 2 ข้อ แต่ข้อละ 500 คำ)
การเขียนเรียงความ เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญของการขอทุนเลย เพราะฉะนั้นอยากให้เขียนกันให้ดี เขียนให้ตรงจุด พยายามอย่าเขียนเวิ่นเว้อ ออกทะเลมากเพราะจำนวนคำที่น้อยอยู่แล้ว ก็เขียนเนื้อเน้นๆไปเลย อย่าเขียนน้ำมากค่ะ
3) ทรานสคริปต์ / ผลสอบอื่นๆ
ต้องเป็นทรานสคริปต์ของม.ปลายนะคะ (ม.4-6) ถ้ามีผลสอบอื่นอย่างเช่น SAT ก็สามารถใส่เพิ่มได้ (พวก CU-TEP, CU-AAT ฯลฯ ไม่เกี่ยวในหัวข้อนี้นะ)
4) หลักฐานแสดงผลสอบวัดระดับภาษา
ต้องใช้ Official Result ที่เป็นตัวจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้ Copy ได้
5) จดหมายแนะนำ (+English Proficiency Evaluation)
แนะนำให้คุณครูต่างชาติหรือคุณครูภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเป็นคนเขียนเอกสารตัวนี้ให้นะคะ ถ้าจะให้ดีก็ประทับตราโรงเรียนด้วยก็ได้
6) รูปถ่าย
จำนวน 2 ใบ ต้องเป็นขนาด 3x4 cm พื้นหลังสีขาว แล้วก็ต้องเขียนชื่อภาษาอังกฤษกับสัญชาติข้างหลังรูปถ่ายด้วย
7) เรียงความขอทุน **
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรียงความที่สำคัญในการขอทุนค่ะ เขียนประมาณ 150 คำ (เปลี่ยนจากปี 2014 ที่ต้องเขียนประมาณ 300 คำ) สำหรับคนที่ไม่ได้ขอทุนไม่ต้องใช้เอกสารตัวนี้นะคะ
8) กิจกรรมนอกเวลา/ชมรม (+หลักฐาน)
สำหรับคนที่ทำกิจกรรม การแข่งขัน เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ สามารถเขียนรายละเอียดได้ที่เอกสารตัวนี้เลย ตามหัวข้อที่ทางเอกสารแยกมาให้ รวมถึงการสอบ CU-TEP, CU-AAT สอบวัดระดับภาษาอื่นๆ ฯลฯ ก็สามารถกรอกได้เหมือนกัน
* สำหรับประกาศนียบัตรหรือเหรียญรางวัล สำหรับตรงนี้ใช้เป็นตัว Copy ได้ แต่สำหรับหลักฐานการสอบหรือใบรับรองต่างๆ ก็ยังคงต้องเป็นตัวจริงเหมือนเดิมค่ะ
** อย่าลืมเขียนตรงหัวกระดาษของหลักฐานตามลำดับที่เขียนในเอกสารนะคะ อย่างเช่น ประกาศนียบัตรจากการแข่งขันที่อยู่ในข้อ B-1 ก็เขียนไว้ที่มุมกระดาษของหลักฐานการแข่งขันด้วยว่า B-1 เป็นต้น
เอาล่ะ... ผ่านเรื่องที่ดูเครียดกันไปแล้ว ก็มาขอพูดถึงประสบการณ์หรือความทุกข์ระทมตั้งแต่ช่วงทำเอกสารซักนิดนึง
อย่างที่บอก(อีกแล้ว)ว่า เป็นการสมัครที่กะทันหันมากๆ ทุกอย่างจึงรวดเร็วไปหมดเลย จำได้เลยว่า มีอยู่อาทิตย์นึงที่ไปเรียนเหมือนไม่ได้เรียน นั่งเขียนเรียงความในคาบเรียน ทำเรื่องขอทรานสคริปต์ ถ่ายรูป ไปหาครูต่างชาติให้เขียน Letter of recommendation ให้ เตรียมตัวสอบ TOEIC ยุ่งทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว
สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือ การเขียนเรียงความค่ะ สำหรับไอซ์ ถึงแม้ว่าจะชอบภาษาอังกฤษ ไปแลกเปลี่ยนมาก็แล้ว เรียนเสริมอังกฤษมาก็หลายปีแล้ว แต่การเขียนเป็นอะไรที่ไม่ใช่แนวมากๆ 5555555 เลยใช้เวลากับการเขียนเรียงความนานมากๆ เพราะมันต้องเขียนตั้ง 500 คำ 2 ข้อ เรียงความขอทุนอีก 300 คำ เบ็จเสร็จก็ประมาณ 1300 คำ อ้วกแตกเลยทีเดียว /ฮาาาา แม่ก็เลยให้บอกให้เราเอาเรียงความไปให้กับลูกพี่ลูกน้องเรากับรุ่นพี่คนนึงที่เก่งอังกฤษช่วยเกลาภาษาให้ ก็ช่วยกันเกลาช่วยกันแก้อยู่เกือบสิบรอบถึงจะโอเคแล้วเขียนลงใบสมัคร จำได้ว่า...ต้องนั่งเขียนเรียงความตั้งแต่สามทุ่มถึงตีสาม ตื่นหกโมงไปสอบปลายภาคที่โรงเรียน หนังสือนี่แทบไม่ได้อ่าน 55555 แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี(มั้ง)
สำหรับการสัมภาษณ์ หลังจากที่ประกาศวันว่าจะสอบสัมภาษณ์เมื่อไรก็เตรียมตัวอยู่พอสมควร เพราะแม่ให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าผลออกมาไม่ได้ทุน 100% จะไม่ให้ไป 80% ก็ไม่ได้ ต้องได้ 100% เท่านั้น ไม่งั้นต้องไปสอบ GAT PAT...
ในใจไอซ์ตอนนั้นเนี่ย... ซวยแล้วกู
ไอซ์ก็คิดว่า ยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะใจตอนนั้นลอยไปญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว แม่ก็ช่วยโดยการลองหาข้อมูลจากในเน็ตว่า รุ่นพี่ที่เคยสอบ APU เขาเตรียมตัวกันยังไงบ้าง คำถามเป็นแนวไหน แล้วก็ลองสมมติสถานการณ์จริงตอนสัมภาษณ์ขึ้นมาให้ได้ลองซ้อมดู ถึงแม้ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์สัมภาษณ์ตอนสอบไปแลกเปลี่ยน แต่เพราะการสัมภาษณ์นี้นั้น กรรมการจะสัมภาษณ์เราเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ก็เลยแอบเครียดเล็กน้อย
แล้ววันสอบสัมภาษณ์ก็มาถึง...
จำได้เลยว่าสอบสัมภาษณ์วันอาทิตย์ เป็นคนที่ 4 ค่ะ สอบที่ห้อง Meeting room ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวๆอโศก (จำชื่อโรงแรมไม่ได้แล้ว) บอกเลยว่า...ตื่นเต้นมากกกกกกกกกก แม่มาด้วย แม่ก็ตื่นเต้นไปด้วยเลย 55555555 อ้อ.. ไอซ์ทำ Portfolio ในการสอบสัมภาษณ์ด้วย แต่ก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย ห้องสัมภาษณ์แบ่งออกเป็นสองห้อง ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ก็ไปลงชื่อกับพี่จากสำนักงาน APU Thailand แล้วก็เตรียมตัวกับแม่อีกรอบหนึ่ง จากแนวคำถามที่ได้มาก็ลองเขียนสิ่งที่จะตอบกับกรรมการไป แล้วก็จำๆ เข้าห้องสอบไปด้วยนิดหน่อย ไอซ์ไม่อยากจำเยอะเพราะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เราจะโดนกรรมการถามอะไรบ้าง แล้วก็การสัมภาษณ์จะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
พอถึงเวลาคิวสัมภาษณ์ พอคนก่อนหน้าออกมา พี่ที่ดูแลก็บอกว่า ให้รอสัก 5 นาทีก่อนแล้วค่อยเคาะประตูเข้าไป พอครบ 5 นาทีปุ๊ปก็เคาะประตู เปิดประตูเข้าไป ก็เจอคนญี่ปุ่นทั้งสองคนเลย คนนึงดูมีอายุน่าจะเป็นกรรมการหลัก ส่วนอีกคนเหมือนเป็นผู้ช่วย พอนั่งลงปุ๊บก็ทักทายเขา เราก็ยื่น portfolio ไปให้ เขาก็เปิดๆดูนิดหน่อย เตรียมเอกสารสักพักนึง เขาก็ถามเราว่า เริ่มเลยมั้ย เราก็บอก โอเค
จากนี้คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องสัมภาษณ์... (เวอร์ชั่นแปลไทยเรียบร้อย)
ปล. ใครใคร่อ่านก็อ่าน ใครไม่ใคร่อ่านก็อยากให้อ่านค่ะ XD
กรรมการ 1: อ่า..ไหนลองแนะนำตัวหน่อย เป็นใครมาจากไหน
ไอซ์: ชื่อ .... ชื่อเล่น ไอซ์ค่ะ มาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ตอนนี้เรียนจบแล้วค่ะ
กรรมการ 1: อ้อ เรียนจบแล้วหรอ อืม...ไหนลองบอกเหตุผลที่อยากเรียน APU มาหน่อย เอาคร่าวๆพอนะ
ไอซ์: /คิดในใจ โดนแล้วหนึ่งดอก (จ้องหน้ากรรมการ) ก็...(อธิบายเหตุผลอย่างที่เตรียมมา)
กรรมการ 1: อื้ม ดีๆ (เปิด Portfolio ไปด้วย) ไหนดูซิ... โอ้ มีพี่ชายด้วยหรอ เรียนอยู่จุฬาฯด้วยนี่นา
ไอซ์: อ่า ใช่ค่ะ /ยิ้มแห้ง
กรรมการ 1: ไหนๆ ก็มีพี่ชายเรียนอยู่จุฬาฯแล้ว ทำไมถึงไม่อยากเรียนจุฬาฯละ ทำไมถึงอยากเข้า APU แทน คุณก็รู้ใช่มั้ยว่า มหาวิทยาลัยที่พี่ชายคุณเรียน มันเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไทย มีชื่อเสียงยิ่งกว่า APU ซะอีก คิดว่า APU เนี่ยจะมีสิ่งที่คุณจะได้มากกว่ามหาวิทยาลัยของพี่ชายคุณมั้ย
ไอซ์: *ช็อคเรียบร้อย* เอ่อ..ก็เพราะว่า เคยไปแลกเปลี่ยนมาค่ะ พอกลับมาที่ไทยก็มีความคิดที่อยากจะเรียนต่อต่างประเทศ แล้วตัวเราเองก็เป็นคนอยากเรียนแล้วก็ชอบภาษาด้วย... บลาๆ /ควักสกิลแถออกมาใช้
กรรมการ 1: โอ้ งั้นหรอๆ *พยักหน้า* ดีแล้วๆ ... แล้วคุณคิดว่า ถ้าคุณได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วเนี่ย มีอะไรอยากจะเรียนเป็นพิเศษมั้ย แล้วพอคุณจบจาก APU แล้วเนี่ย คุณคิดว่าคุณจะได้ประสบการณ์อะไรเอาไปใช้ในการทำงานในอนาคต
ไอซ์: ก็ที่รู้มานะคะว่า ที่ APU เนี่ย ในปีนึงก็จะมีจัดกิจกรรมเยอะแยะมากมาย แล้วก็มีชมรมด้วย ก็อยากจะลองเข้าชมรมที่สนใจค่ะ ก็จะได้ทั้งเพื่อนญี่ปุ่น เพื่อนต่างชาติด้วย.. ฯลฯ
กรรมการ 1: *เปิดพอร์ตไปเรื่อยๆ* นี่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยหรอเนี่ย? ..เคยเรียนญี่ปุ่นด้วย!? *เสียงตกใจเล็กน้อย*
ไอซ์: *สะดุ้ง* ค่ะ เคยเรียนญี่ปุ่นกับเพื่อนอยู่ประมาณสองปี แล้วก็เคยไปแลกเปลี่ยนที่เดนมาร์กตอนม.5 ค่ะ
กรรมการ 1: /ทำตาโต น่าสนใจๆ ไหนลองพูด ญี่ปุ่นกับภาษา..เอ่อ ที่เดนมาร์กเขาใช้ภาษาอะไรน่ะ?
ไอซ์: แดนิช ค่ะ
กรรมการ 1: เอ้อๆ ไหนลองพูดเลย ทั้งสองภาษานะ
ไอซ์: (พูดญี่ปุ่นเสร็จ พูดแดนิชต่อ) *ยิ้มสวย*
กรรมการ 1 , ผู้ช่วย: *ทำหน้างงสักพัก* เป็นภาษาที่ดูท่าทางยากเนอะ ฮ่าๆ /me หัวเราะตาม
กรรมการ 1: อืม... มาพูดถึงเรื่องคณะที่อยากเรียนดีกว่า APM ใช่มั้ยเนี่ย.. อยากเรียน Marketing .. ไหนลองบอกเหตุผลซิว่า ทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้
ไอซ์: *เข้าสู่โหมดเครียด* (อธิบายเหตุผลที่อยากเรียน)
กรรมการ 1: แล้วถ้า..อืม คุณรู้ใช่มั้ยว่า ประเทศไทยเนี่ย ในสังคมมีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนอยู่มากพอสมควร คุณคิดว่า จากสิ่งที่คุณจะได้เรียน คุณจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ในสังคมไทยยังไงบ้าง
ไอซ์: *ช็อครอบสอง* เอ่อ...(นิ่งประมาณสามวิก่อนตอบ) *แถอะเกน 5555555*
กรรมการ 1: *ทำหน้างงกับคำตอบเล็กน้อย* อื้ม ถึงวิธีจะแปลกๆหน่อย แต่ก็น่าสนใจดีนะ ดีมากๆ
ไอซ์: /วิญญาณหลุดลอยออกจากร่างเรียบร้อย ...
กรรมการ 1: อ่า สัมภาษณ์จบแล้ว /ยื่นพอร์ตคืนให้ เหลือเวลาอีกประมาณ 3 นาที ไหน มีคำถามอะไรอยากจะถามมั้ย เกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่ APU *ยิ้มแบบลุงๆ*
ไอซ์: ห้ะ? เสร็จแล้วหรอคะ? อ่า..งั้น เอ่อ อยากถามว่า ....
กรรมการ 1: (ตอบคำถามให้) หมดเวลาพอดีเลย ขอบคุณมากนะครับ หวังว่าจะได้เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะครับ
ไอซ์: /ลุกจากเก้าอี้ อาริกาโตะโกะไซมัส /โค้ง *ยิ้ม*
กรรมการ 1, ผู้ช่วย: /รีบลุกขึ้นแล้วโค้งให้
พอออกจากห้องสัมภาษณ์แบบเบลอๆ 5555555 แม่ก็ถามว่าเป็นไงบ้าง เราก็บอกไปว่า คิดว่าโอเค พูดไม่ได้ติดขัดอะไร เวลาตอบก็ eye contact กับกรรมการตลอด พอถึงวันประกาศผล ไอ้เราก็รีบเช็ค ปรากฏว่า... ว่า... ว่า...! (จะตื่นเต้นเพื่อ?)
ได้ทุน 100% ค่ะ /เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ตอนประกาศผลนี่กระโดดไปทั่วบ้านเลย ดีใจมากเลย ณ ตอนนั้น (แม้ว่าจะแอบมีดราม่าเล็กน้อยก็ตามที .__.)
*แฮ่กๆ* เหนื่อยมาก เขียนมาประมาณสามชั่วโมงแล้ว ใครอ่านจนมาถึงบรรทัดนี้ ถือว่าท่านมีความอดทนอย่างยิ่ง ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าที่อาจเขียนข้อมูลบางอย่างไม่ละเอียดพอนะคะ (แก่แล้วค่ะ 555 ความจำเลอะเลือนเล็กน้อย XD)
ต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรต้องติดตามนะคะ
แล้วเจอกันค่ะ! またね!ヾ(*'▽'*)ノ
ช่องทางการติดต่อ. (อาจจะไม่ได้ตอบเร็ว แต่ จะพยายามตอบหมดนะคะ)
E-mail: iceice.f@gmail.com